อาจบอกได้ว่า การรักษาพยาบาลคนไม่สบายในระยะท้ายๆ ของชีวิตนั้น เป็นกลุ่มของคนป่วยที่ปรารถนาในสิ่งที่แตกต่างจากคนป่วยอีกหลายๆ กลุ่ม และเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า ทุกระบบการรักษาจะต้องมีบริการที่ครอบคลุมไปถึงการรักษาทุกรูปแบบ ซึ่งการรักษาแบบ hospice ก็คือความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจน ไม่ได้มีจุดมุ่งหวังให้คนไข้หายจากโรค แต่เน้นไปที่การรักษาให้คนไข้ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่ว่าจะเป็นทางกายและทางใจก็ตาม
อะไรคือสถานพยาบาล hospice
หากว่าเอ่ยถึงคำนี้ก็เชื่อได้เลยว่าคนในประเทศไทยนั้นไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าใดนัก และที่สำคัญที่สุดก็คือ ไม่ได้รับการนิยามของคนในประเทศไทยมาก่อนอีกด้วย แต่หากเราไปค้นหาเรื่องของสถานพยาบาลลักษณะนี้ในต่างประเทศก็จะเห็นกันมานักต่อนัก เพราะว่าเป็นสถานพยาบาลที่เกิดในต่างประเทศ เหมาะสมกับการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ดีก็ หากจะแปลเป็นภาษาไทยก็แปลได้อย่างง่ายๆ ได้เช่นกัน นั่นก็คือการบริบาลเพื่อคุณภาพชีวิตในระยะสุดท้าย ซึ่งทางทีมงานที่ดูแลก็จะมีการจัดสถานที่ดูแล รวมไปถึงสิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องกับการดูแล โดยวัตดุประสงค์ก็คือการลดความทุกข์ทรมานของคนป่วย ไม่ว่าจะเป็นทางกายหรือทางใจก็ตามแต่ อีกทั้งยังมีการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้กับครอบครัวของคนป่วยไปด้วยพร้อมๆ กัน ซึ่งสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จะครอบคลุมไปที่ระยะสุดท้ายของชีวิต และระยะแรกหลังการเสียชีวิตของคนป่วยอีกด้วยนั่นเอง
สถานพยาบาลที่คล้ายๆ กับhospice
สำหรับอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องคำนึงถึงไม่แพ้กันก็คือ การสถานพยาบาลที่คล้ายๆ กันกับสถานพยาบาลเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะท้ายสุดของชีวิต ซึ่งหลายต่อหลายประเทศได้ทำการศึกษาอย่างละเอียดและพบว่า การรักษาในระยะสุดท้ายของชีวิตก็คือหนึ่งสิ่งที่สำคัญ สำหรับการดูแลประคับประคองอีกด้วย ซึ่งจะเน้นไปที่การดูแลรักษาคุณภาพอีกหนึ่งรูปแบบ บางครั้งอาจจะให้ผู้ป่วยอยู่ที่สถานพยาบาล แต่ทว่าจะสร้างบรรยากาศให้ผู้ป่วยรู้สึกราวกับว่าอยู่บ้าน การมีสถานพยาบาลแบบนี้ก็จะทำให้บุคคลที่ได้ดูแลคนป่วยเป็นประจำนั้นมีโอกาสในการพักผ่อนบ้าง เพื่อลดความเครียด เหมาะสมกับการดูแลคนป่วยในระยะยาวๆ ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว และที่สำคัญคนป่วยก็มีความสุขอีกด้วย
และนี่ก็คือสิ่งที่หลายๆ คนควรรู้เกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วย จะดีกว่าหรือไม่หากเรานั้นจะเลือกสถานพยาบาล hospice เพื่อให้คนป่วยได้รับโอกาสการดูแลที่ดีกว่าเดิม ไม่จำเป็นต้องพาไปอยู่อย่างถาวรก็ได้ แต่อาจจะเลือกเป็นช่วงเวลาที่ผู้ดูแลรู้สึกเหนื่อยหรือหมดพลังกับการดูแลก็ได้เช่นกัน
